วันนี้ขอมาแบ่งปันประสบการณ์การใช้ดอกเราท์เตอร์แบบใหม่ ที่บังเอิญได้ไปเห็นใน Youtube ต่างประเทศ เขามีการเอาดอกแบบนี้มาใช้ในงานไม้ ซึ่งเราที่ใหม่มากในวงการไม้ ก็เลยลองหามาใช้บ้าง
ดอกเราท์เตอร์แบบนี้เป็นดอกคาร์ไบด์ทั้งแท่ง เกลียวสวนทางกัน (Compression router bit)ลักษณะเกลียวสวนทางกันนี้แหละครับที่เป็นข้อดีของดอกประเภทนี้
ความแตกต่างระหว่างดอก 4 ประเภท
จากที่ค้นหาข้อมูลมา ดอกเราท์เตอร์เริ่มนิยมจากดอกที่มีคัตเตอร์แบบตรง (Straight cutter bit)ที่เราใช้กันทั่วไป ลักษณะการที่คมกินไม้จะเป็นการสับตั้งฉาก ซึ่งมีข้อดีและข้อเสีย ต่อมาจึงได้มีการพัฒนา เป็นแบบเกลียวหมุนขึ้น และเกลียวหมุนลง (Up cut bit และ Down cut bit) และตามมาด้วยดอกเราท์เตอร์แบบเกลียวสวนทางกัน (Compression router bit)
รอยตัดจากดอกตรง
จึงเริ่มมีการพัฒนาดอกแบบเกลียวขึ้น (Up cut bit) คือเกลียวของดอกจะเอาขี้เลื่อยขึ้นมาทางด้านที่มอเตอร์อยู่ ข้อดีของดอกประเภทนี้คือ ลักษณะคมที่เป็นเกลียวจะตัดไม้แบบเฉือน ไม่ใช่แบบสับ ให้ลองนึกถึงเวลาเราสับมีดลงตรงๆ กับเราเฉือน ดอกประเภทนี้ ทำให้รอยตัดด้านที่เกลียวอัดเข้าหาไม้(ด้านล่าง)จะไม่แตกและมีรอยสวยงาม ในขณะที่อีกด้านที่เกลียวสวนออกจะมีรอยที่สภาพย่ำแย่กว่าดอกตรงซะอีก ข้อดีคือแรงสะบัดน้อยกว่า และลักษณะการเฉือน ทำให้ดอกประเภทนี้มีอายุการใช้งานคมที่เยอะกว่า ไม่ต้องลับบ่อยเท่า ในทางกลับกัน ดอกเกลียวลง (Down cut bit) จะทำให้ผิวฝั่งมอเตอร์สวย แต่อีกฝั่งไม่สวยแทน ดอกทั้งสองแบบช่วยในการระบายขึ้เลื่อยไปทางได้ทางหนึ่ง ช่วยให้ฝุ่นไม่ฟุ้งกระจายเยอะเหมือนดอกตรง ยิ่งถ้าใช้กับเครื่องดูดฝุ่นแล้ว จะดีต่อสุขภาพปอดทุกคนมากเลยครับ
รอยตัดจากดอกเกลียวทางเดียว
ดอกเกลียวทั้งสองประเภท ถ้าเอามาใช้ในงานเดินร่อง ดอกเกลียวขึ้นจะทำให้รอยเดินร่องไม่สวย แต่ด้วยทิศทางการระบายขี้เลื่อย ทำให้เราสามารถเดินร่องได้ไว้กว่าอีกดอก โดยมีข้อควรระวังว่าดอกประเภทนี้จะพยายามดึงชิ้นงานเข้าหามอเตอร์ ถ้าใช้เราท์เตอร์มือก็ต้องจับไม้ไว้ให้แน่น ในขณะที่ดอกเกลียวลงจะทำให้รอยเดินร่องสวยที่ผิว แต่ขี้เลื่อยจะไปอัดกันอยู่ก้นหลุม และลักษณะเกลียวแบบนี้จะพยายามดันไม้ออกจากมอเตอร์ การใช้ดอกประเภทนี้ ต้องเดินช้า และกดเราท์เตอร์ให้แนบไม้ไว้
ดอกเกลียวที่เดินร่องไม่ทะลุ เกลียวลง(ซ้าย) เกลียวขึ้น(ขวา)
มาถึงดอกประเภทสุดท้ายหลังจากเกริ่นมานาน ดอกเกลียวสวนทางกัน ไม่แน่ใจว่าภาษาไทยเรียกทางการว่าอะไรนะครับ แต่ภาษาอังกฤษคือ Compression router bit ก็เป็นตัวที่เอาข้อดีของดอก up และ down มารวมกัน ทำให้รอยที่ผิดสวยทั้งสองด้าน แรงกระทำเป็นการเฉื่อนเข้าหาไม้ทั้งสองด้าน ลดโอกาสแตกของเมลามีน ลามิเนต ชั้นสีพ่น และวัสดุชั้นนอกต่างๆจะเสียหาย แรงสะบัดน้อย แต่ในข้อดีต่างๆก็มีข้อเสียมาแลกเช่นกัน ดอกลักษณะนี้จะคายขี้เลื่อยน้อย ทำให้เดินได้ช้ากว่าดอกประเภทอื่นๆ
รอยตัดจากดอกเกลียวสวนทางกัน
สุดท้ายที่สำคัญที่สุดคือ ดอกเกลียวลับยากมาก ของผมใช้แล้วทิ้งเลย แต่ด้วยอายุการใช้งานของมันที่ยาวขึ้นมาก ก็คุ้มค่าที่จะใช้แล้วทิ้ง อีกอย่างที่ต้องควรระวังคือ ที่ทุกคนรู้ว่าคาร์ไบด์แข็งแต่เปราะ ดังนั้นอย่างทำหล่นพื้นกันนะครับ อาจจะเสียดอกไปฟรีๆได้
สรุป
ข้อดีดอกเกลียว
-รอยสวยงามสองด้าน
-แรงสะบัดน้อยกว่า ตัดไม่เมื่อย
-หายคมช้ากว่า (ไม่ได้ลับคมเป็นปี จากโรงงานที่ลับทุกเดือน)
ข้อเสีย
-ลับคมไม่ได้ (ยาก)
-การใช้ต้องคิดดีๆว่าจะเลือกใช้ดอกแบบไหนมาในงานแบบไหน
-มีไม่ครบทุกขนาด
ข้อดีดอกตรง
-ตัดไว ตัดง่าย ไม่ต้องคิดเยอะ มีดอกเดียว ใช้ทุกงาน
-ลับคมง่าย
-มีขนาดให้เลือกเยอะ
ข้อเสีย
-คมสึกง่าย
-ถูกกว่า